เถื่อน

เถื่อน

เพลง

วันพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2553

จังหวัดกาฬสินธุ์

















กาฬสินธุ์


กาฬสินธุ์ เป็นจังหวัดที่มีความอุดมสมบูรณ์จังหวัดหนึ่งในภาคอีสาน จากหลักฐานทางโบราณคดีบ่งบอกว่า เคยเป็นที่อยู่อาศัยของเผ่าละว้า ซึ่งมีความเจริญทางด้านอารยธรรมประมาณ 1,600 ปี จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์เริ่มตั้งเป็นเมืองในสมัยรัตนโกสินทร์ เมื่อปี พ.ศ. 2336 โดยท้าวโสมพะมิตร ได้อพยพหลบภัยมาจากดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงพร้อมไพร่พล และมาตั้งบ้านเรือนอยู่ริมน้ำปาว เรียกว่า “บ้านแก่งสำโรง” แล้วได้นำเครื่องบรรณาการเข้าถวาย สวามิภักดิ์ต่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ต่อมาได้รับพระกรุณาโปรดเกล้า ยกฐานะบ้านแก่งสำโรงขึ้นเป็นเมือง และพระราชทานนามว่า “เมืองกาฬสินธุ์” หรือ “เมืองน้ำดำ” ซึ่งเป็นเมืองที่สำคัญทางประวัติศาสตร์มาตั้งแต่สมัยโบราณกาล “กาฬ” แปลว่า “ดำ” “สินธุ์” แปลว่า “น้ำ” กาฬสินธุ์จึงแปลว่า “น้ำดำ” ทั้งมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งให้ท้าวโสมพะมิตรเป็น “พระยาชัยสุนทร” ครองเมืองกาฬสินธุ์เป็นคนแรก
อาณาเขต
ทิศเหนือ จดจังหวัดอุดรธานี สกลนคร
ทิศใต้ จดจังหวัดร้อยเอ็ด มหาสารคาม
ทิศตะวันออก จดจังหวัดร้อยเอ็ด มุกดาหาร
ทิศตะวันตก จดจังหวัดมหาสารคาม ขอนแก่น และอุดรธานี
กาฬสินธุ์ อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ 519 กิโลเมตร แบ่งการปกครองออกเป็น 14 อำเภอ 2 กิ่งอำเภอ คือ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ อำเภอยางตลาด อำเภอกมลาไสย อำเภอสหัสขันธ์ อำเภอสมเด็จ อำเภอกุฉินารายณ์ อำเภอท่าคันโท อำเภอเขาวง อำเภอห้วยเม็ก อำเภอคำม่วง อำเภอหนองกุงศรี อำเภอนามน อำเภอห้วยผึ้ง อำเภอร่องคำ กิ่งอำเภอสามชัย และกิ่งอำเภอนาคู จังหวัดกาฬสินธุ์มีเนื้อที่ทั้งหมด 7,055.07 ตารางกิโลเมตร ลักษณะภูมิประเทศตอนบนเป็นภูเขาตามแนวเทือกเขาภูพาน ตอนกลางเป็นเนินเขาสลับป่าโปร่ง

แว่นตา


ข้อดีและข้อเสียของการใส่แว่นและคอนแทค



ความจริงอันนี้เขียนไว้ และเคยเอาลงทั้งไดอีส และสเปซ มาแล้ว
แต่คิดว่ามันอาจจะเป็นประโยชน์ต่อใครอีกหลายคน
ชาวไซเบอร์


วันนี้มีสาระนะ :P เขียนจากรประสบการณ์ตรงซึ่งอาจจะไม่ตรงกะของคนอื่นบ้าง ถือซะว่าแลกกัน ส่วนใครยังไม่เคยใส่ทั้งสองและกะลังประสบปัญหาสายตา (เริ่ม) สั้น ก็อ่านไว้เป็นความรู้ก่อนไปซื้อแว่น หรือคอนแทค ใส่


จขด. สายตาสั้นเพราะ


1. กรรมพันธุ์ (หรือป่าว) เพราะพ่อสายตาสั้นง่ะ ตอนนี้แก่แล้ว ยังไม่ยาวสักที 5 5 5


2. นอนหงายอ่านหนังสือ


3. เล่นคอมนาน


4. ตอนสั้นใหม่ ๆ ไม่รีบใส่แว่น


5. ตอนใส่แว่น ใหม่ ๆ ไม่ใส่ตลอด ใส่ ๆ ถอด ๆ (ความจริงควรถอดเฉพาะ เวลานอนหลับ และล้างหน้า)


เริ่มแรกรู้สึกว่าสั้นตอน ม. 3นั่งหลังห้องเริ่มมองไม่เห็นตัวหนังสือที่อาจารย์เขียน (ชอค์กบนกระดานเขียว) โทษอาจารย์มั่ว ว่าทำไมเขียนตัวหนังสือติดกันจัง มันเบลอ ๆ ชอล์คมันทู่หรือไงวะ 5 5 แต่พอไปดูใกล้ ๆ มันไม่ใช่ อาจารย์เขียนได้เคลียร์มาก ๆ ต๋ายละฮา สายตาสันนนนจบม. 3 มาเรียน ปี 1 ปวช. คราวนี้กระดานเปลี่ยนไป เป็นกระดานไวท์บอร์ด ปากกาไวท์บอร์ด เส้นเล็ก ๆ เวลาเขียนจะอ่านยากมาก ไม่ไหวแล้ว ไม่ชอบนั่งหน้าห้องเรียน มันกดดัน 5 5 5 ต้องตัดแว่นแระ ก็ไปวัดสายตาตัดแว่น อ่าาา โลกสดใสขึ้นทันตาเห็น (แต่ยังคงติดนิสัยนอนอ่านหนังสืออยู่ หาใช่หนังสือเรียนไม่!!!) สายตาเปลี่ยนก็เปลี่ยนแว่นใหม่ สิริรวม 3 อัน เลนส์ 4 คู่ -*- เปลืองตังค์มิใช่น้อย ก็ใส่แว่น (ใส่บ้างไม่ใส่บ้าง) จนจบปี 1 มหาลัย



ตอนนี้เริ่มเล็งเห็นข้อเสียของแว่นตา



ตอนจะขึ้นปี 2 เป็นสันทนาการรับน้อง ไม่ไหวแล้ว ให้ใส่แว่นเต้นแร้งเต้นกา มันไม่สะดวก ก็เลยใส่คอนแทคดีกว่า ตอนแรกตื่นเต้วววมาก ๆ จำได้เรย ไปซื้อครั้งแรกที่ร้านกรุงไทยการแว่น ให้พี่คนขายสอนใส่ ว๊าววว ช่างเป็นนวัตกรรมที่น่าสรรเสริญอะไรเยี่ยงนี้ (ลอกของ มิชาเอล บัลลัค มา) แจ่มแจ้งชัดแจ๋วในระยะหลายร้อยเมตร ก็ใส่ ๆ มาจนต้นเทอมสองของปี 3 นี่แหละ


จากนั้นเกิดโศกนาฎกรรมขึ้น คือ มือไม่สะอาด มักง่าย จับคอนแทคใส่ตา ตาอันบอบบางรับไม่ได้ เลยประท้วงด้วยการอักเสบ กลายเป็นเดชไอ้บอดอยู่ราว ๆ 2 อาทิตย์กว่า ๆ ใส่แว่นดีกว่า



ตอนนี้เริ่มเล็งเห็นข้อเสียของคอนแทคมาแระ



ตอนนี้ก็ใส่แว่นนะ บางวันอยากใส่คอนแทคก็จะใส่ เพราะที่ซื้อมาตุนไว้ยังมีอยู่ :P



แนะนำเรื่องวัดสายตา ลองวัดดูหลาย ๆ ร้าน หลาย ๆ ยี่ห้อ มันไม่เสียตังค์ :P รวมทั้งที่โรงพยาบาลด้วย เพราะว่าบางร้านไม่มีจรรยาบรรณน่ะ สายตาปกติ ก็หาว่าสั้นแล้ว พูดหว่านล้อมให้เราซื้อคอนแทค หรือ ตัดแว่นที่ร้านมัน เคยเจอมาแล้ว (เรื่องสายตากับร้านนี่ชั่วโมงบินสูงพอสมควร :P) จากนั้นค่อยตัดสินใจตัดแว่น หรือ ซื้อคอนแทคก็ยังมิสาย



อันนี้วัดจากจขด. โดยตรง(ขณะนี้ power ของแว่นและคอนแทคที่จขด. ใช้คือ -3.25 หรือเรียกกันติดปากว่า สั้น 325)



ข้อดีของแว่นตา


1. เลือกใช้เลนส์ EMI สำหรับกันแสงจากหน้าจอมอนิเตอร์ และเวลาตากแดดไม่แสบตา


2. ถอด และใส่สะดวก ไม่ต้องล้างมือ เพียงแค่มีผ้าเช็ดเลนส์มัลติโค้ดเช็ดให้มันใส ๆ ก็พอ


3. ลดความเสี่ยงที่เชื้อโรคจากมือเข้าตา (ได้มาก)


4. กันลมเข้าตาได้ดีกว่าคอนแทค


5. ลูกตาสะอาด สดใส



ข้อเสียของแว่นตา


1. ราคาแพง เมื่อสายตาเปลี่ยนต้องเปลี่ยนเลนส์ (หรือกรอบด้วย)


2. เกะกะ น่ารำคาญ


3. เลือกให้เข้ากะหน้าได้ยาก บางคนใส่กลายเป็นป้า, เด็กเรียน, เด็กแนว


4. ดั้งมีน้อย ใส่ลำบาก 5 5 5


5. (แลดูแล้ว) ตาจะเล็กลง :P



ข้อดีของคอนแทค


1. เปลี่ยน power ได้ทันทีที่สายตาเปลี่ยน


2. ใส่ครั้งเดียว สะดวกทั้งวัน


3. ไม่มีอะไรเกะกะบนใบหน้า


4. ลดความเฉิ่มของบางคนได้ :P (เปลี่ยน look นั่นเอง)


5. ราคาถูก เมื่อเที่ยบกับการตัดแว่น(ใช้ Duna รายเดือน ไม่ถึง 200.- ต่อคู่)คิดจาก คาราแว่นตา หารด้วย จำนวนเดือนที่คาดว่าสายตาจะไม่เปลี่ยน จะได้ราคาออกมาเป็นรายเดือน สรุปว่า แว่นแพงกว่า




ข้อเสียของคอนแทค


1. อัตราเสี่ยงของเชื้อโรคเข้าสู่ตาสูงมาก (เพราะขี้เกียจล้างมือให้สะอาด :P)


2. เสียเวลาในการใส่ และถอด ยิ่งตอนตื่นเช้า (ก่อนหน้านั้นได้นอนน้อย) รีบไปเรียน นี่เสียเวลามาก ๆ เพราะคอนแทคไม่ยอมติดตา เนื่องจากตาแห้ง -*-


3. ต้องคอยหยอดน้ำตาเทียม (หรือเอาน้ำที่แช่นั่นแหละหยอด) เพราะตาขาดอ๊อกซิเจน กระพริบจะรู้นึกได้เรยว่าเจ็บ


4. ซื้อบ่อย ๆ (ใช้รายเดือน)


5. เล่นคอมนาน ๆ เจ็บตามาก เพราะมันกันแค่รังสี uv


6. เดินทางที พกหลายอย่าง น้ำตาเทียม น้ำยาแช่ ตลับ




อะไรอีกวะ นึกออกมาเพิ่มใหม่



ใครจะใส่อะไรก็แล้วแต่ แต่ขอให้รีบใส่ตั้งแต่ตอนที่สายตายังสั้น ๆ นะ มีสิทธิ์หายได้ มีสิทธ์ดึงสายตาให้กลับมาปกติได้ คน ๆ เดียวอาจจะเป็นได้ทั้งสายตาสั้นและ สายตายาว เพราะว่าสั้นก็ส่วนสั้น ยาวก็ส่วนยาว :D ไม่แปลกเลยที่เห็นบางคนใส่คอนแทคเพื่อแก้สายตาสั้น และใส่แว่นเพื่อแก้สายตายาว

กพบเจอปัญหาสายตากัน :P)

นมแม่


นมแม่



บางบ้านอาจจะมีปลูกอยู่แล้ว เพราะเป็นพืชที่ขึ้นง่ายค่ะ หักกิ่งมาปัก รดน้ำสักอาทิตย์ก็ขึ้นแล้วค่ะ สรรพคุณที่มีอยู่ในตำรา ดูได้จาก


จริงๆ แล้วไม่มีบอกว่าช่วยเพิ่มน้ำนมนะคะ แต่เป็นการพบโดยบังเอิญค่ะ เนื่องจากตอนท้องแรก ลูกอายุประมาณ 4 เดือน ไม่สบายเลยหยุดให้นมกลางคืนไปสามสี่วัน หลังจากนั้นก็รู้สึกว่าน้ำนมน้อยลง ไม่คัดตึงเหมือนก่อน บังเอิญว่ามีผู้แนะนำสมุนไพรตัวนี้ให้พี่สามีลองกินดู เพราะพี่สามีเป็นภูมิแพ้ค่ะ ผู้แนะนำบอกว่า ช่วยบำรุงเลือด ทำให้ผิวพรรณดี ก็เลยกินกันทั้งบ้านค่ะ ส่วนหนึ่งก็คิดว่าเหมือนกินผักธรรมดา ปลอดสารพิษอีกต่างหาก เพราะเราปลูกเอง ไม่ได้ใช้ยาอะไรเลย


พอกินไปได้สองสามวัน ก็เริ่มรู้สึกว่าหน้าอกคัดตึง เหมือนเมื่อก่อน ก็เลยกินไปเรื่อยๆ หลังจากนั้นก็พยายามหาข้อมูลว่ามันช่วยให้มีน้ำนมได้จริงหรือไม่ ก็ไม่เจอข้อมูลอ้างอิงใดๆ มีเท่าที่ทำ link ให้ข้างบน แค่นั้นเอง เคยให้ภรรยาเพื่อนลองกิน ก็ได้ผลเหมือนกันค่ะ


วิธีรับประทาน : ใช้ใบสด 7-8 ใบ เคี้ยวทานเลยก็ได้ค่ะ (ฉุนเล็กน้อย) หรือหั่นฝอยๆ คลุกกับข้าวผัด หรือข้าวสวย ทานกับกับข้าวอื่นก็ได้ค่ะ จะวันละมื้อหรือหลายมื้อก็ตามสะดวกค่ะ เหมือนผักสดชนิดหนึ่ง


หมายเหตุ : เคยเห็นมีคนเด็ดยอดนำมาแพ็คขายในเซ็นทรัลและเดอะมอลล์ ตรงแผนกผักสุขภาพ ปลอดสารพิษ เรียกว่า "ผักพันปี" หรือ " Cockle Bur" ลองดูนะคะ เมื่อซื้อมาแล้วเด็ดใบไปรับประทาน ก็เอากิ่งก้านที่เหลือไปปักลงดิน ปลูกต่อได้ค่ะ ถ้าใครหาไม่ได้และต้องการทดลองมาเอาที่บ้านก็ได้นะคะ (ศรีนครินทร์-สวนหลวง ร.9) ไม่เก็บเงินค่ะ เมล์มาถามทางได้ข้างล่างนี้เลยค่ะ

น้ำ


น้ำ

ร่างกายของคนเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบอยู่ถึง 75% ของน้ำหนักตัว เราอาจจะอดอาหารได้เป็นเดือน ๆ แต่ร่างกายไม่สามารถขาดน้ำได้เกินกว่า 3 -7 วัน การดื่มน้ำอย่างถูกต้อง จะช่วยให้การไหลเวียนของโลหิตดี หัวใจทำงานปกติ และมีประสิทธิภาพแข็งแรงขึ้น ขณะเดียวกันการขับถ่ายของเสียก็ทำงานได้ดี ที่สำคัญยังช่วยให้ใบหน้าชุ่มชื่น มีเลือดฝาด และไม่ปวดหลังหรือบั้นเอว เพราะสุขภาพไตแข็งแรง


การดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว จะช่วยทำให้ปริมาณไขมันในร่างกายลดลง อาจเป็นเรื่องเหลือเชื่อที่น้ำจะเป็นสิ่งสำคัญที่มีส่วนช่วยในการดูแลรูปลักษณ์ แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะต้องดื่มน้ำเพราะความจำเป็น แต่ในความเป็นจริงน้ำเป็น อาหารอันวิเศษ " ที่ช่วยในการดูแลรูปลักษณ์อย่างถาวร


น้ำช่วยบรรเทาอาการท้องผูก


น้ำสามารถช่วยไม่ให้ท้องผูก หากร่างกายได้รับน้ำน้อย ทำให้ขับถ่ายลำบาก ซึ่งทำให้เกิดท้องผูก แต่สามารถช่วยให้หายได้ โดยการดื่มน้ำให้เพียงพอ


ได้มีการค้นพบว่าน้ำมีส่วนช่วยในการดูแลรูปลักษณ์ ร่างกายไม่สามารถทำหน้าที่ได้โดยสมบูรณ์หากได้รับน้ำไม่เพียงพอ โดยเฉพาะการเผาผลาญไขมันที่สะสม หากร่างกายเก็บน้ำไว้มากจะดูได้จากการที่มีน้ำหนักเกิน แต่แก้ไขได้โดยการดื่มน้ำเพิ่มขึ้น การดื่มน้ำมากขึ้นจะเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยในการดูแลรูปลักษณ์ ดื่มน้ำเท่าไหร่จึงจะพอ? โดยเฉพาะควรดื่มน้ำ 8 แก้วต่อวัน อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีน้ำหนักเกินควรดื่มน้ำเพิ่มมากขึ้นอีก และจะต้องเพิ่มขึ้นอีกหากคนๆ นั้นชอบออกกำลังกายหรืออยู่ในที่ ๆ
มีอากาศร้อนหรือแห้ง น้ำเย็นจะถูกดูดซึมในร่างกายได้เร็วกว่าน้ำอุ่น บางหลักฐานแนะนำว่าการดื่มน้ำเย็นจะช่วยเผาผลาญแคลลอรี่
ศษ "
ที่ช่วยในการดูแลรูปลักษณ์อย่างถาวร

ดูและรักษารองเท้า




ดูแลรองเท้าคู่ใจ

เริ่มแรก ตอนไปซื้อรองเท้า โดยเฉพาะรองเท้าดีมียี่ห้อ ราคาสูง จะสังเกตว่าทางร้านมีที่ยึดรองเท้าใส่ไว้ หรือไม่ก็มีไม้หรือพลาสติกก้านยาวยึดรองเท้าให้ได้รูปทรง ถ้าเจอแบบนี้แล้วอย่าทิ้ง ให้เอากลับมาด้วย

  • เวลาซื้อรองเท้า เขามักให้กล่องมาด้วย ก็ให้นำกลับมาด้วย เพราะมันจะช่วยเก็บรักษาไม่ให้ฝุ่นเกาะ

  • ตู้ใส่รองเท้า ควรเป็นตู้มิดชิดที่ป้องกันฝุ่นได้ ถ้าไม่เป็นตู้ปิดทึบ เป็นตู้แบบเปิดโล่งก็ได้ แต่ควรมีถุงผ้า ถุงพลาสติก หรือกล่องใส่ก่อนเพื่อกันฝุ่น

  • เมื่อกลับถึงบ้าน ไม่ควรเอารองเท้าเก็บใส่ตู้ในทันที ให้ทิ้งไว้ข้างนอกสักหนึ่งวันแล้วค่อยเก็บในตู้เพราะแต่ละวันที่ใส่รองเท้า อาจมีเหงื่อออกที่เท้าทำให้รองเท้ามีความชื้นต้องปล่อยให้แห้งก่อน แล้วจึงทำความสะอาดรองเท้าก่อนใส่ตู้

  • การดูแลรองเท้าจำพวกหนังมัน ให้ใช้ผ้านุ่มสะอาดเช็ดรองเท้าก่อน เป็นการทำความสะอาดในขั้นแรก จากนั้นจึงใช้ผ้าเนื้อนุ่มอีกผืนป้ายยาขัดรองเท้า ในลักษณะวนเป็นวง ๆ ให้ทั่วรองเท้า แล้วใช้แปรงเนื้อนุ่มสำหรับขัดรองเท้า ค่อย ๆ ขัดอย่างเบามือแต่รวดเร็ว จะทำให้รองเท้าเงาเหมือนใหม่ สุดท้ายให้ใช้ผ้าสะอาดนุ่มเช็ดเบา ๆ อีกครั้ง หรืออาจจะใช้น้ำยาสำหรับเพิ่มความเงาป้ายและขัดเพิ่มให้หนังมีความมันและ ไม่ติดสิ่งสกปรกง่าย

  • รองเท้าหนังกลับ ให้ใช้แปรงขัดรองเท้าปัดเบา ๆ ให้ฝุ่นออก แล้วใช้สเปรย์ลำหรับหนังกลับฉีดให้ทั่ว เพื่อหนังจะได้สวยตามเดิม และควรใช้สเปรย์ตามสีของหนังด้วย

  • ควรนำรองเท้าออกมาผึ่งแดดบ้าง เพื่อเป็นการฆ่าเชื้อโรคหากรองเท้าเปียกน้ำมาให้นำไปตากแดดจนเกือบแห้ง แล้วใช้ที่ยึดรองเท้าใส่เข้าไป ทิ้งไว้ให้แห้งสนิทจึงค่อยเอามาทำความสะอาด วิธีนี้จะช่วยให้รองเท้าไม่เสียทรง


  • อย่าลืม ดูแลรักษารองเท้าอยู่เสมอนะคะ ^-^

  • ประชาธิปไตยคืออะไร?





    ประชาธิปไตย
    คำว่า ประชาธิปไตย หมายถึงระบอบการปกครองประเทศระบอบหนึ่ง ซึ่งเป็นการปกครองของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน คำว่า “ประชาชน” ในที่นี้มิได้หมายความแต่เฉพาะบุคคลกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เช่น คนร่ำรวย คนยากจน เจ้าของที่ดิน คนงาน หรือชาวนา เท่านั้น แต่หมายถึง ปวงชนทั้งชาติ ไม่ว่าจะเป็นคนยากดีมีจนอย่างไร หรือประกอบอาชีพใดก็ตาม ปวงชนเหล่านี้ย่อมมีสิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบ ในการปกครองประเทศร่วมกันและอย่างเสมอภาคกัน
    ในระบอบประชาธิปไตย ถือความเห็นของปวงชนฝ่ายข้างมากเป็นเกณฑ์ในการบริหารราชการแผ่นดิน แต่ในขณะเดียวกันสิทธิของปวงชนฝ่ายข้างน้อย ก็ย่อมได้รับความคุ้มครองโดยบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ทั้งความเห็นฝ่ายข้างมากนั้น จะต้องเป็นความเห็นที่กอปรด้วยเหตุผล และเป็นธรรมด้วย
    เมื่อพิจารณาในแง่ของศีลธรรมแล้ว จะเห็นได้แจ่มแจ้งว่า ระบอบประชาธิปไตยนี้ มีหลักการที่มีรากฐานสืบเนื่องมาจากศีลธรรมอย่างแท้จริง กล่าวคือ ระบอบประชาธิปไตยเคารพในความเป็นธรรม (Justice) เหตุผล (reason) เมตตาธรรม (compassion) ความศรัทธาในมนุษยชาติ (faith in man) และความเคารพในเกียรติภูมิแห่งมนุษยชน (human dignity)

    เหตุผลสำคัญในเชิงการเมือง ของการจัดให้มีการปกครองระบอบประชาธิปไตย มีสองประการคือ
    ประการแรก : ระบอบการปกครองนี้ส่งเสริมให้ประชาชน มีส่วนมีเสียงในการปกครองประเทศโดยทั่วหน้ากัน บุคคลเหล่านี้ไม่ว่าจะเป็นบุคคลประเภทใด เมื่อร่วมกันทั้งชาติ ย่อมตัดสินใจได้ดีกว่าบุคคลเพียงคนเดียว หรือกลุ่มเดียวเท่านั้น และ
    ประการที่สอง : ปวงชนทั้งชาตินั้นเอง ควรจะมีสิทธิที่จะเลือกผู้ที่จะมาปกครองตน และมาบริหารราชการแผ่นดินเพื่อผลประโยชน์ของปวงชน ไม่มีผู้อื่นใดเหมาะสม ที่จะเลือกผู้บริหารได้ดีกว่าปวงชนนั้นๆเอง
    นอกเหนือจากรูปแบบของการใช้อำนาจโดยตรงและผ่านผู้แทนของประชาชนแล้ว สิ่งที่สำคัญของระบอบประชาธิปไตยได้แก่ปรัชญาของระบอบประชาธิปไตย ซึ่งมองไปที่ธรรมชาติของมนุษย์ กฎแห่งธรรมชาติ และ สภาวะธรรมชาติ โดยปรัชญารากฐานที่สำคัญของระบอบประชาธิปไตยนั้นสามารถรวบรวม



    ปรชาธิปไตยของไทยแลกมาด้วยเลือด